Bake with Love

จุดเริ่มต้นในการทำขนมของผู้ชายที่เป็นสถาปนิกและอดีตอาจารย์มหาวิทยาลัย เกิดขึ้นปลายปี 2008 เมื่อครั้งลาออกจากงาน กลายเป็นผู้ติดตามภรรยาที่รับทุนเรียนปริญญาเอกที่เมืองเชฟฟิลด์ ประเทศอังกฤษ พร้อมลูกชายวัย6 เดือน ไปเป็นพ่อบ้านเต็มตัว คอยดูแลลูกและภรรยา ค่อยๆผันตัวจากงานออกแบบสถาปัตยกรรม มายืนอยู่หน้าเตา ในห้องแพนทรีเล็กๆเพราะต้องการทำขนมที่อร่อย ปลอดภัย ให้ลูกได้กิน

หลังจากใช้เวลาศึกษา ค้นคว้าด้วยตัวเอง ลองผิดลองถูก อ่านตำราทำขนม ศึกษาตำราจากเวปไซต์ต่างๆ รวมทั้งรายการทำอาหาร เค้กวันเกิดลูกชายครบ1 ขวบคือเค้กก้อนแรกแห่งความภูมิใจ ลูกชายกินแต่เชอร์รี่กับบลูเบอร์รี่บนเค้ก!!! "ถึงขนมไม่อร่อยแต่อย่างน้อยก็มีผลไม้ช่วยบรรเทา"

จากความล้มเหลวในครั้งแรกๆ ทำให้เริ่มต้นศึกษาอย่างจริงจัง ว่า "เค้ก" คืออะไร จนค้นพบว่า การทำอาหารหรือการทำขนมเป็นการรวมตัวกันของศาสตร์และศิลป์เฉกเช่นเดียวกับการออกแบบสถาปัตยกรรม มีคอนเซปต์ มีหลักเบื้องต้นในการออกแบบ การคัดสรรวัตถุดิบ เติมจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ ที่สำคัญคือใส่ใจในทุกรายละเอียดเพื่อให้ได้งานที่มี “คุณค่ามากกว่าแค่ความอร่อย” ใช้เวลาเกือบ3ปีในการลองผิดลองถูก จนสุดท้ายได้ 2 เมนูอร่อย Chocolate Lemon Roulade และ Soft Cotton Cheese Cake พร้อมบินกลับไทย

ราวปลายปี 2011 หลังจากกลับมาพำนักถาวรที่เมืองไทยก็ได้ฤกษ์เปิดเตา แต่แทบจะโยนทุกอย่างทิ้ง หลังจากพบว่าที่เมืองไทย #เนยไม่ใช่เนย #วานิลลาไม่ใช่วานิลลา กลิ่นไม่ได้ ความอร่อยไม่มี จึงต้องมองหาสิ่งที่เป็นวัตถุดิบจากท้องถิ่น ที่หาได้ง่าย คุณภาพดี ราคาไม่แพง #แล้วใส่ความคิดสร้างสรรค์ สร้างรสสัมผัสแบบใหม่ พร้อมทั้งเปิดร้านThe Pantry @Silomหลังสงกรานต์กลางเดือนเมษายน 2013 ซึ่งเป็นโอกาสที่ได้ทดลองทำเมนูเค้กใหม่ๆ ตลอดระยะเวลา 6 เดือนที่เปิดร้าน ได้พบลูกค้าที่น่ารัก (ปัจจุบันกลายเป็นทั้งพี่ น้อง เพื่อน) และได้สั่งสมประสบการณ์ สร้างสรรค์เมนูขนมเช่น #เค้กโรลฟักทองญี่ปุ่น #เค้กข้าวเหนียวมะม่วง #เค้กมะพร้าวอ่อน และเค้กผลไม้ตามฤดูกาลตลอดทั้งปี พร้อมกันนี้ได้มีโอกาสรู้จักพี่นนท์ ประภากมล หุ่นใย แห่ง Cafe' Au Chum ซึ่งได้ให้คำแนะนำเรื่องการทำขนมและแรงบันดาลใจจนกลายเป็นเมนู #มะยงชีสเค้ก #ทุเรียนโอเปร่า และ #ชอคโกแลตเบสเดย์ ในเวลาต่อมา

แม้ร้านThe Pantryที่สีลมจะปิดไปตั้งแต่ปลายปี 2013 หลังจากเปิดให้บริการเพียงแค่ 6เดือน แต่งานทำขนมยังดำเนินต่อโดยอาศัยลูกค้าปากต่อปาก จากขนมสำหรับงานเลี้ยงวันเกิดเล็กๆ ขยายขนาดเป็นขนมและของว่างสำหรับงานสัมมนา ตั้งแต่ 50-250 คน เค้กสำหรับงานแต่งงาน งานทำบุญ รวมทั้งงานออกแบบขนมสำหรับร้านอาหาร และงานสอนทำขนม ซึ่งผู้ที่ต้องการขนมของเดอะแพนทรีมาจากที่ต่างๆ แต่มีความต้องการเดียวกันคือ ขนมที่อร่อยอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นแรงดึงดูดให้เราได้มาพบกัน

Creative Craft Bakery

เพราะงานขนมเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ เป็นงานที่มีรายละเอียด มีความพิถีพิถัน เฉกเช่นเดียวกับการออกแบบสถาปัตยกรรม เริ่มตั้งแต่การออกแบบ การวางคอนเซปต์ การเลือกเมนูขนมให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า การเลือกวัตถุดิบ การเตรียมส่วนผสม เทคนิคต่างๆในการทำขนม การจัดเสริ์ฟ กระทั่งส่งมอบให้ถึงมือลูกค้า ล้วนต้องทุ่มเทเวลาและความใส่ใจในทุกขั้นตอน

ผลงานทั้งหมดจะเกิดขึ้นไม่ได้หากไม่ได้เริ่มจาก “ความรัก” ความปราถนาให้คนรับประทานมีรอยยิ้ม มีความสุข อยากเป็นตัวแทนส่งมอบความห่วงใย ใส่ใจ ดูแล #เหมือนเป็นคนในครอบครัว ผ่านขนมทุกชิ้นที่ใช้ใจทำ

Happy Bestday,

อภิชัย ประจงสาร (ตั้วเดอะแพนทรี)

The Pantry Creative Craft Bakery